หน่วยการเรียนรู้ที่ 2
การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสร้างชิ้นงานอย่างมีจิตสำนึก
ผลกระทบของคอมพิวเตอร์กับมนุษย์
ผลกระทบของการใช้คอมพิวเตอร์กับมนุษย์ ยุคที่เทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทกับชีวิตมนุษย์มากขึ้น
และการพัฒนาของคอมพิวเตอร์นั้น มีความรวดเร็วมาก และมีประสิทธิภาพเทียบเท่า หรือดีกว่าการทำงานของมนุษย์
ซึ่งเห็นได้ว่าในต่างประเทศใช้หุ่นยนต์มาทำงานแทนมนุษย์ ในอนาคตคาดว่ามนุษย์อาจตกงาน
เพราะหุ่นยนต์ทำงานได้ดีกว่า ไม่มีเหนื่อย และไม่เสี่ยงอันตรายเหมือนกับการใช้มนุษย์
ถ้าแบ่งผลกระทบการใช้คอมพิวเตอร์กับมนุษย์ จะแบ่งได้ 2 อย่าง คือ ผลกระทบทางตรง
ผลกระทบทางอ้อม
ผลกระทบทางตรง เริ่มในเรื่องอวัยวะของมนุษย์ สิ่งที่สำคัญในการใช้คอมพิวเตอร์ คือ ตา เมื่อเราใช้คอมพิวเตอร์ไปนานๆ หรือเพ่งจอมากๆจะทำให้รู้สึกว่าปวดตา อาจทำให้สายตามีปัญหา เช่น สายตาสั้น ส่วนใหญ่ผู้ที่ทำงานหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นประจำ หรือคนที่เล่นเกม ซึ่งเด็กนักเรียนนักศึกษาเล่นกันมาก บางครั้งการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ถ้าเล่นจนเกินขอบเขต เกินความพอดี อาจเป็นอย่างที่หนังสือพิมพ์ลงข่าวว่ามีนักศึกษาเล่นเกมจนช็อตตายคาร้าน อินเตอร์เน็ต
การใช้คอมพิวเตอร์นานๆ เมื่อไหร่จะพักสายตา ตรงนี้อาจจะสังเกตจากตาของเราว่าเมื่อใช้ไปนานๆ จะเริ่มปวดตาควรจะหยุด โดยละสายตามองทางอื่น หรือลุกขึ้นไปเพื่อผ่อนคลายก่อน แล้วจึงลงมานั่งทำงานต่อ อย่าฝืนมากเกินไปอาจจะเป็นผลเสียกับตัวเอง อาจจะมองเห็นเป็นภาพเบลอๆ แต่เป็นอาการชั้วคราว สาเหตุก็เกิดจากรังสีออกมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ อาการที่เกิดขึ้นจากการมองจอภาพเป็นเวลานานๆ นี้เรียกว่า Computer Vision Syndrome (CVS)
ผลกระทบทางตรง เริ่มในเรื่องอวัยวะของมนุษย์ สิ่งที่สำคัญในการใช้คอมพิวเตอร์ คือ ตา เมื่อเราใช้คอมพิวเตอร์ไปนานๆ หรือเพ่งจอมากๆจะทำให้รู้สึกว่าปวดตา อาจทำให้สายตามีปัญหา เช่น สายตาสั้น ส่วนใหญ่ผู้ที่ทำงานหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นประจำ หรือคนที่เล่นเกม ซึ่งเด็กนักเรียนนักศึกษาเล่นกันมาก บางครั้งการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ถ้าเล่นจนเกินขอบเขต เกินความพอดี อาจเป็นอย่างที่หนังสือพิมพ์ลงข่าวว่ามีนักศึกษาเล่นเกมจนช็อตตายคาร้าน อินเตอร์เน็ต
การใช้คอมพิวเตอร์นานๆ เมื่อไหร่จะพักสายตา ตรงนี้อาจจะสังเกตจากตาของเราว่าเมื่อใช้ไปนานๆ จะเริ่มปวดตาควรจะหยุด โดยละสายตามองทางอื่น หรือลุกขึ้นไปเพื่อผ่อนคลายก่อน แล้วจึงลงมานั่งทำงานต่อ อย่าฝืนมากเกินไปอาจจะเป็นผลเสียกับตัวเอง อาจจะมองเห็นเป็นภาพเบลอๆ แต่เป็นอาการชั้วคราว สาเหตุก็เกิดจากรังสีออกมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ อาการที่เกิดขึ้นจากการมองจอภาพเป็นเวลานานๆ นี้เรียกว่า Computer Vision Syndrome (CVS)
ผลกระทบทางด้านธุรกิจการค้า
ทางด้านธุรกิจจะได้รับผลกระทบจากการใช้คอมพิวเตอร์ก่อนด้านอื่น เพราะว่าทางธุรกิจต้องมีการแข่งขันกันมาก ความคล่องตัวในการตัดสินใจ ความคล่องตัวในการลงทุน ความพยายามลดค่าใช้จ่าย สิ่งเหล่านี้ ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถเข้ามามีอิทธิพลในวงการธุรกิจเร็วกว่าด้านอื่น แต่ในระยะแรกประสบปัญหาหลายประการ เช่น การต่อต้าน การไม่สามารถปรับระบบงานเดิมเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์ ระบบเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่เหมาะสมกับงาน ปัญหาเหล่านี้จะสร้างผลกระทบที่สำคัญต่องานต่างๆ ในวงธุรกิจโดยย่อ ดังนี้
งานด้านธุรการและสารบรรณ
งานด้านธุรการและสารบรรณ ประกอบด้วยงานเขียนข้อความประมาณร้อยละ ๑๕-๒๐ งานจัดแฟ้มเอกสารร้อยละ ๑๕-๒๐ งานค้นหาเอกสารร้อยละ ๑๕-๒๐ งานพิมพ์ดีดประมาณร้อยละ ๑๕-๒๐ สิ่งเหล่านี้คอมพิวเตอร์จะสามารถเข้ามาช่วยงานได้มาก บุคคลซึ่งเคยทำงานนี้อยู่แต่เดิม จะรู้สึกไม่ยอม จะต่อต้านเครื่องมือใหม่ วิธีการใหม่ และไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง การเรียนรู้ กลัวที่จะทำงานดังกล่าวไม่ได้ ยิ่งมีเครื่องมือทันสมัยเพียงไร ก็จะมีการต่อต้านมากขึ้นเพียงนั้น แม้ว่าเครื่องมือจะอำนวยความสะดวกให้มากมายเพียงใดก็ตาม
งานด้านการตรวจสอบภายใน
จะมีผลกระทบค่อนข้างมากในด้านการตรวจสอบบัญชี การตรวจสอบด้วยเครื่องมือคอมพิวเตอร์ จะประหยัดแรงงาน เวลา และกระดาษพิมพ์ เจ้าหน้าที่ต้องเปลี่ยนวิธีการทำงานจากการอ่านสมุดบัญชี มาเป็นการรู้จักใช้เครื่อง และชุดคำสั่งคอมพิวเตอร์ในการตรวจสอบ
งานด้านการทำบัญชี
งานทางด้านบัญชี ซึ่งเคยต้องลอกตัวเลขจากบัญชีประเภทหนึ่งมากรอกลงบัญชีอีกประการหนึ่ง รวมทั้งงานที่จะต้องแยกประเภทบัญชี การคิดบัญชีต้นทุน การทำสรุปรายงาน งานเหล่านี้แทบว่าจะหมดไป ถ้าหน่วยงานนั้นได้มีการวางระบบการดำเนินการใช้คอมพิวเตอร์อย่างเหมาะสม นักบัญชีแบบเดิมจะต้องเปลี่ยนเป็นนักบัญชีที่มีหน้าที่ควบคุมตัวเลข ควบคุมระเบียบการเบิกจ่ายเงินเป็นขั้นเป็นตอน ควบคุมการกระทบยอดบัญชี และควบคุมนโยบายด้านการเงิน เป็นต้น
งานด้านการย้ายเงินเข้าบัญชี
การย้ายเงินเข้าบัญชีจากบริษัทหนึ่งไปเข้าบัญชีของอีกบริษัทหนึ่ง จากบัญชีธนาคารหนึ่งไปเข้าบัญชีอีกธนาคารหนึ่ง หรือบัญชีของธนาคารไปเข้าบัญชีของบริษัท หรือบัญชีของบริษัทไปเข้าบัญชีของธนาคาร เหล่านี้คอมพิวเตอร์จะเข้ามามีส่วนช่วยในการดำเนินการ โดยที่มนุษย์ไม่ได้เห็นตัวเงินเลย เห็นแต่ตัวเลข ผู้ที่ทำหน้าที่เหล่านี้ ซึ่งเคยจะต้องตรวจสอบลายมือ ลายเซ็น ตรวจสอบบัญชี ก็ไม่ต้องทำเอง ให้คอมพิวเตอร์ทำแทน วิธีนี้จะลดเวลาในการดำเนินงาน ลดปริมาณกระดาษที่ใช้ แต่ผู้ที่ปฏิบัติงานเดิมจะลดความสำคัญของตนเองลง
งานด้านการคำนวณภาษี
ในการคำนวณภาษี เพื่อการหักภาษีในการจ่ายเงินเดือน การหักภาษีในการซื้อหรือขายสินค้า คอมพิวเตอร์จะสามารถช่วยงานได้ทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงทำงานในลักษณะควบคุมระบบ ติดตามการเสียภาษี ทำรายงาน และรายการการเสียภาษีเท่านั้น
งานด้านการผลิตสินค้า
ในการผลิตสินค้า และอุปกรณ์ของวงการธุรกิจ มีการนำผลการพัฒนาด้านคอมพิวเตอร์ในรูปต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไมโครโปรเซสเซอร์ เข้ามาช่วยควบคุมอุปกรณ์ที่ทำงานในโรงงานมากขึ้นทุกที นอกจากนี้ ยังใช้ควบคุมการใช้ไฟฟ้า น้ำมัน เพื่อให้ดำเนินการได้อย่างประหยัดที่สุดเมื่อใช้คอมพิวเตอร์ช่วยงานมากขึ้น แรงงานใช้น้อยลง อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับแรงงานมากขึ้น ในขณะเดียวกันผลกำไรขาดทุน คุณภาพในการผลิต ความสะดวกในการควบคุม และการบริหารของวงการธุรกิจนั้นๆ ยังทำให้จำเป็นต้องใช้เครื่องทำงานอัตโนมัติอยู่
งานด้านการขาย
ด้านการขาย จะมีการวิเคราะห์การขาย ในรูปแบบต่างๆ กัน ทำให้รู้สภาพและสถานะของการขาย เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายจะต้องติดตามงาน และรายงานผลมากขึ้น และในเวลาเดียวกันผู้จัดการฝ่ายขายสามารถใช้คอมพิวเตอร์วิเคราะห์ประสิทธิภาพ การดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายทุกคนได้ด้วย ดังนี้ จะมีผลดีต่อทางบริษัท แต่เวลาเดียวกัน ผู้ทำหน้าที่เป็นคนขายจะรู้สึกไม่สบายใจ เพราะถูกหัวหน้าคอยติดตามอยู่ตลอดเวลา ทำให้คนขายต้องหาทางปรับปรุงตัวเอง หาทางศึกษา และเปลี่ยนวิธีการของตนเองอยู่เสมอ จะต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าผู้ที่ทำหน้าที่ด้านขายจะเข้าใจในปัญหาเหล่านี้
งานด้านผู้บริหาร
ทางด้านธุรกิจจะได้รับผลกระทบจากการใช้คอมพิวเตอร์ก่อนด้านอื่น เพราะว่าทางธุรกิจต้องมีการแข่งขันกันมาก ความคล่องตัวในการตัดสินใจ ความคล่องตัวในการลงทุน ความพยายามลดค่าใช้จ่าย สิ่งเหล่านี้ ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถเข้ามามีอิทธิพลในวงการธุรกิจเร็วกว่าด้านอื่น แต่ในระยะแรกประสบปัญหาหลายประการ เช่น การต่อต้าน การไม่สามารถปรับระบบงานเดิมเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์ ระบบเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่เหมาะสมกับงาน ปัญหาเหล่านี้จะสร้างผลกระทบที่สำคัญต่องานต่างๆ ในวงธุรกิจโดยย่อ ดังนี้
งานด้านธุรการและสารบรรณ
งานด้านธุรการและสารบรรณ ประกอบด้วยงานเขียนข้อความประมาณร้อยละ ๑๕-๒๐ งานจัดแฟ้มเอกสารร้อยละ ๑๕-๒๐ งานค้นหาเอกสารร้อยละ ๑๕-๒๐ งานพิมพ์ดีดประมาณร้อยละ ๑๕-๒๐ สิ่งเหล่านี้คอมพิวเตอร์จะสามารถเข้ามาช่วยงานได้มาก บุคคลซึ่งเคยทำงานนี้อยู่แต่เดิม จะรู้สึกไม่ยอม จะต่อต้านเครื่องมือใหม่ วิธีการใหม่ และไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง การเรียนรู้ กลัวที่จะทำงานดังกล่าวไม่ได้ ยิ่งมีเครื่องมือทันสมัยเพียงไร ก็จะมีการต่อต้านมากขึ้นเพียงนั้น แม้ว่าเครื่องมือจะอำนวยความสะดวกให้มากมายเพียงใดก็ตาม
งานด้านการตรวจสอบภายใน
จะมีผลกระทบค่อนข้างมากในด้านการตรวจสอบบัญชี การตรวจสอบด้วยเครื่องมือคอมพิวเตอร์ จะประหยัดแรงงาน เวลา และกระดาษพิมพ์ เจ้าหน้าที่ต้องเปลี่ยนวิธีการทำงานจากการอ่านสมุดบัญชี มาเป็นการรู้จักใช้เครื่อง และชุดคำสั่งคอมพิวเตอร์ในการตรวจสอบ
งานด้านการทำบัญชี
งานทางด้านบัญชี ซึ่งเคยต้องลอกตัวเลขจากบัญชีประเภทหนึ่งมากรอกลงบัญชีอีกประการหนึ่ง รวมทั้งงานที่จะต้องแยกประเภทบัญชี การคิดบัญชีต้นทุน การทำสรุปรายงาน งานเหล่านี้แทบว่าจะหมดไป ถ้าหน่วยงานนั้นได้มีการวางระบบการดำเนินการใช้คอมพิวเตอร์อย่างเหมาะสม นักบัญชีแบบเดิมจะต้องเปลี่ยนเป็นนักบัญชีที่มีหน้าที่ควบคุมตัวเลข ควบคุมระเบียบการเบิกจ่ายเงินเป็นขั้นเป็นตอน ควบคุมการกระทบยอดบัญชี และควบคุมนโยบายด้านการเงิน เป็นต้น
งานด้านการย้ายเงินเข้าบัญชี
การย้ายเงินเข้าบัญชีจากบริษัทหนึ่งไปเข้าบัญชีของอีกบริษัทหนึ่ง จากบัญชีธนาคารหนึ่งไปเข้าบัญชีอีกธนาคารหนึ่ง หรือบัญชีของธนาคารไปเข้าบัญชีของบริษัท หรือบัญชีของบริษัทไปเข้าบัญชีของธนาคาร เหล่านี้คอมพิวเตอร์จะเข้ามามีส่วนช่วยในการดำเนินการ โดยที่มนุษย์ไม่ได้เห็นตัวเงินเลย เห็นแต่ตัวเลข ผู้ที่ทำหน้าที่เหล่านี้ ซึ่งเคยจะต้องตรวจสอบลายมือ ลายเซ็น ตรวจสอบบัญชี ก็ไม่ต้องทำเอง ให้คอมพิวเตอร์ทำแทน วิธีนี้จะลดเวลาในการดำเนินงาน ลดปริมาณกระดาษที่ใช้ แต่ผู้ที่ปฏิบัติงานเดิมจะลดความสำคัญของตนเองลง
งานด้านการคำนวณภาษี
ในการคำนวณภาษี เพื่อการหักภาษีในการจ่ายเงินเดือน การหักภาษีในการซื้อหรือขายสินค้า คอมพิวเตอร์จะสามารถช่วยงานได้ทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงทำงานในลักษณะควบคุมระบบ ติดตามการเสียภาษี ทำรายงาน และรายการการเสียภาษีเท่านั้น
งานด้านการผลิตสินค้า
ในการผลิตสินค้า และอุปกรณ์ของวงการธุรกิจ มีการนำผลการพัฒนาด้านคอมพิวเตอร์ในรูปต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไมโครโปรเซสเซอร์ เข้ามาช่วยควบคุมอุปกรณ์ที่ทำงานในโรงงานมากขึ้นทุกที นอกจากนี้ ยังใช้ควบคุมการใช้ไฟฟ้า น้ำมัน เพื่อให้ดำเนินการได้อย่างประหยัดที่สุดเมื่อใช้คอมพิวเตอร์ช่วยงานมากขึ้น แรงงานใช้น้อยลง อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับแรงงานมากขึ้น ในขณะเดียวกันผลกำไรขาดทุน คุณภาพในการผลิต ความสะดวกในการควบคุม และการบริหารของวงการธุรกิจนั้นๆ ยังทำให้จำเป็นต้องใช้เครื่องทำงานอัตโนมัติอยู่
งานด้านการขาย
ด้านการขาย จะมีการวิเคราะห์การขาย ในรูปแบบต่างๆ กัน ทำให้รู้สภาพและสถานะของการขาย เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายจะต้องติดตามงาน และรายงานผลมากขึ้น และในเวลาเดียวกันผู้จัดการฝ่ายขายสามารถใช้คอมพิวเตอร์วิเคราะห์ประสิทธิภาพ การดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายทุกคนได้ด้วย ดังนี้ จะมีผลดีต่อทางบริษัท แต่เวลาเดียวกัน ผู้ทำหน้าที่เป็นคนขายจะรู้สึกไม่สบายใจ เพราะถูกหัวหน้าคอยติดตามอยู่ตลอดเวลา ทำให้คนขายต้องหาทางปรับปรุงตัวเอง หาทางศึกษา และเปลี่ยนวิธีการของตนเองอยู่เสมอ จะต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าผู้ที่ทำหน้าที่ด้านขายจะเข้าใจในปัญหาเหล่านี้
งานด้านผู้บริหาร
ผู้บริหารระดับผู้จัดการฝ่ายขึ้นไป จำเป็นต้องใช้วิธีการตัดสินใจ
โดยพึ่งข้อมูลมากขึ้น ในระบบเดิมอาจจะพิจารณาเพียงรายงานคร่าวๆ แต่เมื่อมีคอมพิวเตอร์มาใช้รายงานจะต้องมีตัวเลขประกอบการพิจารณาในรูปแบบต่างๆ กันมากขึ้น
ทั้งนี้เพื่อใช้ตอบคำถามแก่ผู้บริหารระดับสูงขึ้นไป หรือตอบคำถามแก่กรรมการบริหาร
ในการทำงานตามระบบเดิมอาจจะอ้างได้ว่า ยังหาตัวเลขไม่ได้
หรือหาตัวเลขไม่ทัน แต่เมื่อนำคอมพิวเตอร์มาใช้ ข้ออ้างเหล่านั้นจะใช้ไม่ได้
การนำระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ ทำให้การบริหารงานเปลี่ยนไปในลักษณะที่จะต้องเน้นที่ประสิทธิภาพการหารายได้ และค่าใช้จ่ายที่เสียไปมากขึ้น
ผลกระทบทางด้านธุรกิจนี้ จะทำให้เกิดความจำเป็น ธุรกิจต่างๆ ต้องวางเป้าหมาย และทุกฝ่ายจะต้องหาทางทำงานให้ได้ตามเป้าหมาย โดยมีข้อมูลเป็นตัวประกอบการพิจารณาตลอดเวลา ทุกฝ่ายต้องวางแผนมากขึ้น แท้ที่จริงแล้วในระบบเดิมที่ไม่ใช้คอมพิวเตอร์จำเป็นต้องมีการดำเนินการแบบนี้ แต่ว่าการประเมินผลทำได้ช้า หรือทำไม่ค่อยได้ด้วยวิธีการธรรมดา คนส่วนใหญ่จึงเห็นว่า ไม่จำเป็น หรือหากทำ ก็ได้ข้อมูลไม่ถูกต้อง จึงละเลยการกระทำเหล่านี้ไป แต่เมื่อมีการใช้คอมพิวเตอร์ก็ต้องเปลี่ยนวิธีการทำงาน
ส่วนที่มีผลกระทบที่สำคัญ คือ คนทำงาน หรือผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่เดิมจะรู้สึกว่า ตนเองมีความสำคัญน้อยลง เพราะมีงานน้อยลง หรือไม่มีงานทำเลย ทำให้เกิดความกลัวที่จะถูกไล่ออกตามมา สิ่งเหล่านี้ไม่เป็นความจริงนัก ถ้าผู้บริหารเข้าใจวิธีการแล้ว จะเห็นว่า คนที่มีความเข้าใจงานเดิมเหล่านี้ จะมีประโยชน์ต่องานทางคอมพิวเตอร์อย่างยิ่ง เพราะแท้ที่จริงแล้ว ในระบบคอมพิวเตอร์ยังต้องการผู้รู้งานเดิมช่วยงานอยู่เป็นอันมาก เช่น พนักงานพิมพ์ดีดจะสามารถช่วยในการตัดสินใจที่จะออกจดหมาย หรือตอบจดหมาย โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย ไม่ต้องมีคนมาบอกให้ทำ และยังสามารถทำได้ด้วยความถูกต้อง ไม่มีข้อผิดพลาด หรือมีข้อบกพร่องเลย กลับทำให้ดูคล้ายๆ กับว่า เป็นพนักงานพิมพ์ดีดที่มีความสามารถสูง คนที่เคยทำหน้าที่ลงบัญชี โดยการเขียน ก็สามารถเปลี่ยนเป็นคนนำข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ และเวลาเดียวกันจะสามารถให้คอมพิวเตอร์ช่วยตรวจสอบว่า ควรจะมีข้อผิดพลาดประการใดได้บ้าง ซึ่งจะสามารถแก้ไขได้ทันท่วงที สิ่งเหล่านี้ ทำให้ทำงานได้ โดยไม่มีข้อผิดพลาด ใช้แรงงานน้อยลง จึงมองดูคล้ายกับว่า ตนเองเป็นนักลงบัญชีที่มีความสามารถ ดังนั้นพอจะสรุปได้ว่า การดำเนินการของงานด้านธุรกิจ จะได้รับผลกระทบ ให้คนต้องทำงานในลักษณะที่คอยควบคุมการดำเนิน การควบคุมการเคลื่อนที่ของข้อมูล ควบคุมการนำตัวเลขเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ควบคุมการประเมินผล ควบคุมความปลอดภัยของข้อมูล และสถานที่ จะต้องใช้สมองในการคิดและตัดสินใจมากขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ กันสามารถตัดสินใจในเรื่องที่แต่ละคนรับผิดชอบได้ดีขึ้น ผู้บริหารระดับสูงจำเป็นต้องกระจายอำนาจ และไม่สามารถกระทำงานได้ด้วยคนเดียวอีกต่อไป ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันคือ จะมีอาชญากรแบบใหม่ที่จะใช้ช่องโหว่ของการเปลี่ยนแปลงระบบเหล่านี้ ก่ออาชญากรรมที่ลึกซึ้ง ตรวจสอบจับตัวคนผิดได้ยาก จึงต้องสร้างระบบการรักษาความปลอดภัย ที่เข้มแข็งขึ้น ตามขั้นตอนของการดำเนินการต่างๆ เป็นสาเหตุให้ต้องเพิ่มแรงงานด้านการบริการ ในลักษณะการรักษาความปลอดภัยประเภทต่างๆ ขึ้นตามมาอีกด้วย
ผลกระทบทางด้านความบันเทิงผลกระทบทางด้านธุรกิจนี้ จะทำให้เกิดความจำเป็น ธุรกิจต่างๆ ต้องวางเป้าหมาย และทุกฝ่ายจะต้องหาทางทำงานให้ได้ตามเป้าหมาย โดยมีข้อมูลเป็นตัวประกอบการพิจารณาตลอดเวลา ทุกฝ่ายต้องวางแผนมากขึ้น แท้ที่จริงแล้วในระบบเดิมที่ไม่ใช้คอมพิวเตอร์จำเป็นต้องมีการดำเนินการแบบนี้ แต่ว่าการประเมินผลทำได้ช้า หรือทำไม่ค่อยได้ด้วยวิธีการธรรมดา คนส่วนใหญ่จึงเห็นว่า ไม่จำเป็น หรือหากทำ ก็ได้ข้อมูลไม่ถูกต้อง จึงละเลยการกระทำเหล่านี้ไป แต่เมื่อมีการใช้คอมพิวเตอร์ก็ต้องเปลี่ยนวิธีการทำงาน
ส่วนที่มีผลกระทบที่สำคัญ คือ คนทำงาน หรือผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่เดิมจะรู้สึกว่า ตนเองมีความสำคัญน้อยลง เพราะมีงานน้อยลง หรือไม่มีงานทำเลย ทำให้เกิดความกลัวที่จะถูกไล่ออกตามมา สิ่งเหล่านี้ไม่เป็นความจริงนัก ถ้าผู้บริหารเข้าใจวิธีการแล้ว จะเห็นว่า คนที่มีความเข้าใจงานเดิมเหล่านี้ จะมีประโยชน์ต่องานทางคอมพิวเตอร์อย่างยิ่ง เพราะแท้ที่จริงแล้ว ในระบบคอมพิวเตอร์ยังต้องการผู้รู้งานเดิมช่วยงานอยู่เป็นอันมาก เช่น พนักงานพิมพ์ดีดจะสามารถช่วยในการตัดสินใจที่จะออกจดหมาย หรือตอบจดหมาย โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย ไม่ต้องมีคนมาบอกให้ทำ และยังสามารถทำได้ด้วยความถูกต้อง ไม่มีข้อผิดพลาด หรือมีข้อบกพร่องเลย กลับทำให้ดูคล้ายๆ กับว่า เป็นพนักงานพิมพ์ดีดที่มีความสามารถสูง คนที่เคยทำหน้าที่ลงบัญชี โดยการเขียน ก็สามารถเปลี่ยนเป็นคนนำข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ และเวลาเดียวกันจะสามารถให้คอมพิวเตอร์ช่วยตรวจสอบว่า ควรจะมีข้อผิดพลาดประการใดได้บ้าง ซึ่งจะสามารถแก้ไขได้ทันท่วงที สิ่งเหล่านี้ ทำให้ทำงานได้ โดยไม่มีข้อผิดพลาด ใช้แรงงานน้อยลง จึงมองดูคล้ายกับว่า ตนเองเป็นนักลงบัญชีที่มีความสามารถ ดังนั้นพอจะสรุปได้ว่า การดำเนินการของงานด้านธุรกิจ จะได้รับผลกระทบ ให้คนต้องทำงานในลักษณะที่คอยควบคุมการดำเนิน การควบคุมการเคลื่อนที่ของข้อมูล ควบคุมการนำตัวเลขเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ควบคุมการประเมินผล ควบคุมความปลอดภัยของข้อมูล และสถานที่ จะต้องใช้สมองในการคิดและตัดสินใจมากขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ กันสามารถตัดสินใจในเรื่องที่แต่ละคนรับผิดชอบได้ดีขึ้น ผู้บริหารระดับสูงจำเป็นต้องกระจายอำนาจ และไม่สามารถกระทำงานได้ด้วยคนเดียวอีกต่อไป ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันคือ จะมีอาชญากรแบบใหม่ที่จะใช้ช่องโหว่ของการเปลี่ยนแปลงระบบเหล่านี้ ก่ออาชญากรรมที่ลึกซึ้ง ตรวจสอบจับตัวคนผิดได้ยาก จึงต้องสร้างระบบการรักษาความปลอดภัย ที่เข้มแข็งขึ้น ตามขั้นตอนของการดำเนินการต่างๆ เป็นสาเหตุให้ต้องเพิ่มแรงงานด้านการบริการ ในลักษณะการรักษาความปลอดภัยประเภทต่างๆ ขึ้นตามมาอีกด้วย
การ สร้างภาพยนต์ประเภทนิยายวทยาศาสตร์ ฉากบู๊ ต่อสู้มีการใช้เทคนิคการนำเสนอ (Effect) ช่วยทำให้เกิดภาพสมจริง ยิ่งกว่านั้นในปัจจุบันจะพบว่ามีการนำคอมพิวเตอร์กราฟิกมาใช้ในอุตสาหกรรม ภาพยนต์ในอัตราส่วนที่มากกว่าการแสดงจริง เช่น การใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกสร้างยานอวกาศ สัตว์ประหลาดจากต่างดาว มนุษย์ต่างดาว และการใช้เทคนิคพิเศษต่างๆ ในภาพยนต์ทำให้ดูสมจริง น่าตื่นตาตื่นให้กับผู้ชม นอกจากนี้ยังพบว่าภาพยนต์บางเรื่องใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกในการสร้างผล งานภาพยนต์ขึ้นมาโดยไม่มีตัวละครที่แสดงจริงเลยแม้แต่คนเดียวอาจกล่าวได้ว่า ไม่มีภาพยนต์เรื่องใดในปัจจุบันที่ไม่ใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกเข้าช่วย
ไม่ใช่เพียงภาพยนต์เท่านั้นที่ใช้เทคนิคแอนิเมชันและคอมพิวเตอร์กราฟิกเข้าช่วย แม้แต่เกมต่างๆ ในท้องตลาดก็ใช้คอมพิวเตอร์พัฒนาขึ้นมาทั้งสิ้นโดย ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างฉากภาพเคลื่อนไหวสิ่งแวดล้อมต่างๆ ซึ่งเกมนี้ถือเป็นธุรกิจบันเทิงที่มีเงินหมุนเวียนมหาศาล โดยเฉพาะเกมออนไลน์ที่มีผู้เล่นอยู่ทั่วทุกมุมโลก ซึ่งจากเดิมเป็นเกมประเภทสองมิติ ปัจจุบันเป็นเกมสามมิติ ทำให้ดูสมจริงจนผู้เล่นเกมแทบจะแยกไม่ออกว่าเป็นตัวละครจริงหรือเป็นตัวละครที่สร้างขึ้นจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ภาพยนต์แอนิเมชันที่ใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกผลิตทุกขั้นตอน
ผลกระทบทางด้านการศึกษา
ระบบการศึกษาเป็นระบบแรกที่สร้างเทคโนโลยีในด้านคอมพิวเตอร์ขึ้น และเป็นสิ่งชักนำให้ส่งผลกระทบไปในงานด้านอื่นๆ
อีกจำนวนมาก ในปัจจุบันการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยได้ใช้คอมพิวเตอร์ประกอบการเรียนการส
อนเนื่องจากการศึกษาในสาขาวิชาต่างๆ จำเป็นต้องอาศัยคอมพิวเตอร์ในระยะยาว การใช้คอมพิวเตอร์ประกอบการเรียนการสอนมีแนวโน้มที่จะขยายตัวไปถึงระดับ
มัธยมและประถมด้วย การใช้คอมพิวเตอร์ในการศึกษานี้จะช่วยให้การเรียนการสอนเป็นไปได้อย่างกว้าง
ขวางรวดเร็ว ทำให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจในเรื่องราวที่ศึกษาได้ดีขึ้น
และยังช่วยให้ผู้สอนสามารถใช้เวลาในการวางแผนและพัฒนาให้เกิดความก้าวหน้าใน
การศึกษาได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ผู้สอนยังอาจใช้คอมพิวเตอร์ในการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการสอนที่จะเป็น
ประโยชน์ในการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงวิธีการสอนให้เหมาะสมกับสภาวะของผู้ เรียนได้อีกด้วย
นอกจากนี้ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยสอนจะมีบทบาทมากขึ้น เนื่องจากราคาเครื่องคอมพิวเตอร์ถูกลง และมีผู้สร้างบทเรียนสำหรับใช้สอนโดยคอมพิวเตอร์มากขึ้น ในระบบคอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ผู้เรียนจะเรียนโดยใช้แป้นตัวอักษรและจอโทรทัศน์ที่เชื่อมโยงกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งได้มีผู้เตรียมบทเรียนต่างๆ ไว้พร้อมแล้ว คอมพิวเตอร์จะแสดงภาพและข้อความบนจอโทรทัศน์ ข้อความนั้นอาจจะเป็นคำแนะนำเพื่อให้ผู้เรียนปฏิบัติ คำอธิบายเพื่อให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจหรือเป็นคำถามเพื่อให้ผู้เรียนตอบ เครื่องคอมพิวเตอร์จะบันทึกผลการเรียนของผู้เรียนว่าได้เข้าใจในเรื่องต่างๆ ดีขึ้นประการใดบ้าง ผู้สอนสามารถจะติดตามผลการเรียนได้สิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้การเรียนการสอนดี ขึ้น ครูผู้สอนจำเป็นต้องหาทางปรับปรุงบทเรียนที่ใช้สอนของตนอยู่เสมอผู้เรียนจะ ต้องอ่านบทเรียนจากจอภาพแทนการอ่านจากหน้ากระดาษ นอกจากนี้ ตำราหรือบทเรียนจะเก็บในรูปของจานแม่เหล็กหรือแถบวีดิทัศน์แทนหนังสือ ผู้เรียนสามารถหาอ่านได้ง่าย สมมุติว่าเราต้องการรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น เรื่องต้นไม้ ถ้าเรื่องนี้มีเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์แล้ว คอมพิวเตอร์จะตรวจดูว่ามีเรื่องนี้ ณ ที่ใด และจะแสดงบนจอภาพให้เห็นได้ทันที ผู้เรียนทุ่นเวลาในการไปค้นหาได้มาก ผลกระทบเหล่านี้จะมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป
ผลกระทบที่สำคัญทางด้านการศึกษาคือ การกลับมาอบรมและศึกษาใหม่ เนื่องจากผู้ที่สำเร็จการศึกษาไปแล้วและกำลังทำงานอยู่ ต้องปรับปรุงตนให้เข้ากับระบบงานที่กำลังจะเริ่มใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ บุคลากรที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องกลับเข้าอบรมและ ศึกษาใหม่ ถ้าการสอนเทคโนโลยีลึกซึ้งเกินไป ผู้เข้ารับการอบรมจะท้อแท้และเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน ไม่สามารถรับวิทยาการใหม่ได้ ผลก็คือ ประสิทธิภาพในการทำงานด้อยลง และอาจจะก่อปัญหาถึงระดับสูงได้โดยง่าย สิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบกลับมายังวิธีการศึกษาว่าจะต้องหาทางพัฒนาวิธีการ ให้เข้าใจง่าย และเป็นที่ยอมรับได้ตั้งแต่แรก
ส่วนการเรียนการสอนโดยทั่วไป ยังมีลักษณะเหมือนเดิม คือ มีห้องเรียน มีครูสอน มีอุปกรณ์การสอนเช่นเดิม เช่น กระดานดำ เครื่องฉายสไลด์ สิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนคือการวางแผนบริหารระบบงานทางด้านการศึกษา ให้สะดวกต่อการนำคอมพิวเตอร์ไปใช้
นอกจากนี้ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยสอนจะมีบทบาทมากขึ้น เนื่องจากราคาเครื่องคอมพิวเตอร์ถูกลง และมีผู้สร้างบทเรียนสำหรับใช้สอนโดยคอมพิวเตอร์มากขึ้น ในระบบคอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ผู้เรียนจะเรียนโดยใช้แป้นตัวอักษรและจอโทรทัศน์ที่เชื่อมโยงกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งได้มีผู้เตรียมบทเรียนต่างๆ ไว้พร้อมแล้ว คอมพิวเตอร์จะแสดงภาพและข้อความบนจอโทรทัศน์ ข้อความนั้นอาจจะเป็นคำแนะนำเพื่อให้ผู้เรียนปฏิบัติ คำอธิบายเพื่อให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจหรือเป็นคำถามเพื่อให้ผู้เรียนตอบ เครื่องคอมพิวเตอร์จะบันทึกผลการเรียนของผู้เรียนว่าได้เข้าใจในเรื่องต่างๆ ดีขึ้นประการใดบ้าง ผู้สอนสามารถจะติดตามผลการเรียนได้สิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้การเรียนการสอนดี ขึ้น ครูผู้สอนจำเป็นต้องหาทางปรับปรุงบทเรียนที่ใช้สอนของตนอยู่เสมอผู้เรียนจะ ต้องอ่านบทเรียนจากจอภาพแทนการอ่านจากหน้ากระดาษ นอกจากนี้ ตำราหรือบทเรียนจะเก็บในรูปของจานแม่เหล็กหรือแถบวีดิทัศน์แทนหนังสือ ผู้เรียนสามารถหาอ่านได้ง่าย สมมุติว่าเราต้องการรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น เรื่องต้นไม้ ถ้าเรื่องนี้มีเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์แล้ว คอมพิวเตอร์จะตรวจดูว่ามีเรื่องนี้ ณ ที่ใด และจะแสดงบนจอภาพให้เห็นได้ทันที ผู้เรียนทุ่นเวลาในการไปค้นหาได้มาก ผลกระทบเหล่านี้จะมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป
ผลกระทบที่สำคัญทางด้านการศึกษาคือ การกลับมาอบรมและศึกษาใหม่ เนื่องจากผู้ที่สำเร็จการศึกษาไปแล้วและกำลังทำงานอยู่ ต้องปรับปรุงตนให้เข้ากับระบบงานที่กำลังจะเริ่มใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ บุคลากรที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องกลับเข้าอบรมและ ศึกษาใหม่ ถ้าการสอนเทคโนโลยีลึกซึ้งเกินไป ผู้เข้ารับการอบรมจะท้อแท้และเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน ไม่สามารถรับวิทยาการใหม่ได้ ผลก็คือ ประสิทธิภาพในการทำงานด้อยลง และอาจจะก่อปัญหาถึงระดับสูงได้โดยง่าย สิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบกลับมายังวิธีการศึกษาว่าจะต้องหาทางพัฒนาวิธีการ ให้เข้าใจง่าย และเป็นที่ยอมรับได้ตั้งแต่แรก
ส่วนการเรียนการสอนโดยทั่วไป ยังมีลักษณะเหมือนเดิม คือ มีห้องเรียน มีครูสอน มีอุปกรณ์การสอนเช่นเดิม เช่น กระดานดำ เครื่องฉายสไลด์ สิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนคือการวางแผนบริหารระบบงานทางด้านการศึกษา ให้สะดวกต่อการนำคอมพิวเตอร์ไปใช้
ผลกระทบของคอมพิวเตอร์ต่อมนุษย์ด้านการแพทย์
การใช้คอมพิวเตอร์เล่นเกมเป็นเวลานานอาจทำให้เสียสายตา
และเกิดปัญหาในเรื่องการเรียน
กล่าวโดยสรุปแล้ว คอมพิวเตอร์ก็เปรียบเสมือนเครื่องมือเครื่องใช้อื่น ๆ ซึ่งมีทั้งคุณและโทษแล้วแต่เราจะเลือกใช้ในทางใด ถ้านำไปใช้ในทางที่เป็นภัย เช่นในการทำสงคราม ผลการะทบในทางลบก็มีมาก อย่างไรก็ตามเมื่อมองดูผลกระทบโดยส่วนรวมแล้ว จะเห็นว่าคอมพิวเตอร์มีคุณประโยชน์มากกว่ามีโทษ โลกของเรานี้จะไม่มีทางพัฒนาก้าวหน้ามาสู่ระดับนี้ได้เลยถ้าหากปราศจาก คอมพิวเตอร์เสียแล้ว ในอนาคตที่กำลังจะมาถึงนี้ ตัวเราเองก็จะไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพถ้าหากไม่มีความรู้เรื่อง คอมพิวเตอร์
กล่าวโดยสรุปแล้ว คอมพิวเตอร์ก็เปรียบเสมือนเครื่องมือเครื่องใช้อื่น ๆ ซึ่งมีทั้งคุณและโทษแล้วแต่เราจะเลือกใช้ในทางใด ถ้านำไปใช้ในทางที่เป็นภัย เช่นในการทำสงคราม ผลการะทบในทางลบก็มีมาก อย่างไรก็ตามเมื่อมองดูผลกระทบโดยส่วนรวมแล้ว จะเห็นว่าคอมพิวเตอร์มีคุณประโยชน์มากกว่ามีโทษ โลกของเรานี้จะไม่มีทางพัฒนาก้าวหน้ามาสู่ระดับนี้ได้เลยถ้าหากปราศจาก คอมพิวเตอร์เสียแล้ว ในอนาคตที่กำลังจะมาถึงนี้ ตัวเราเองก็จะไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพถ้าหากไม่มีความรู้เรื่อง คอมพิวเตอร์
ปัจจัยสําคัญในการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสร้างชิ้นงาน
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
1. จอภาพ
(Monitor)
จอแบบ
LCD
การทำงานนั้นจะไม่เหมือนกับจอแบบ CRT แม้สักนิดเดียว
ซึ่งการแสดงภาพนั้นจะซับซ้อนกว่ามาก
การทำงานนั้นอาศัยหลักของการใช้ความร้อนที่ได้จากขดลวด มาทำการเปลี่ยนและ
บังคับให้ผลึกเหลวแสดงสีต่างๆ
ออกมาตามที่ต้องการซึ่งการแสดงสีนั้นจะเป็นไปตามที่กำหนด ไว้ตามมาตรฐานของแต่ละ
บริษัท จึงทำให้จอแบบ LCD มีขนาดที่บางกว่าจอ CRT อยู่มาก อีกทั้งยังกินไฟน้อยกว่า จึงทำให้ผู้ผลิตนำไปใช้งานกับ
เครื่องคอมพิวเตอร์แบบเคลื่อนที่โน้ตบุ๊ค และเดสโน้ต ซึ่งทำให้เครื่องมีขนาดที่บางและเล็กสามารถพกพาไปได้สะดวก
ในส่วนของการใช้งานกับเครื่องเดสก์ท็อปทั่วไป ก็มีซึ่งจอแบบ LCD นี้จะมีราคาที่แพงกว่าจอทั่วไปอยู่ประมาณ 2 เท่าของ
ราคาในปัจจุบัน
2. เคส (Case)
เคส คือ โครงหรือกล่องสำหรับประกอบอุปกรณ์ต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์ไว้ภายใน การเรียกชื่อ และขนาด ของเคสจะแตกต่างกันออกไป ซึ่งในปัจจุบันมีหลายแบบที่นิยมกัน แล้วแต่ผู้ซื้อจะเลือกซื้อตามความเหมาะสม ของงาน และสถานที่นั้น
เคส คือ โครงหรือกล่องสำหรับประกอบอุปกรณ์ต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์ไว้ภายใน การเรียกชื่อ และขนาด ของเคสจะแตกต่างกันออกไป ซึ่งในปัจจุบันมีหลายแบบที่นิยมกัน แล้วแต่ผู้ซื้อจะเลือกซื้อตามความเหมาะสม ของงาน และสถานที่นั้น
3. พาวเวอร์ซัพพลาย (Power
Supply)
เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับชิ้นส่วนอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์
ซึ่งถ้าคอมพิวเตอร์มีอุปกรณ์ต่อพวงเยอะๆ เช่น ฮาร์ดดิสก์ ซีดีรอมไดรฟ์
ดีวีดีไดรฟ์ก็ควรเลือกพาวเวอร์ซัพพลายที่มีจำนวนวัตต์สูง เพื่อให้สามารถ
จ่ายกระแสไฟได้เพียงพอ
4. คีย์บอร์ด (Keyboard)
เป็นอุปกรณ์ในการรับข้อมูลที่สำคัญที่สุด มีลักษณะคล้ายแป้นพิมพ์ ของเครื่องพิมพ์ดีด
มีจำนวนแป้น 84 - 105 แป้น ขึ้นอยู่กับแป้นที่เป็น กลุ่มตัวเลข
(Numeric keypad) กลุ่มฟังก์ชัน (Function keys) กลุ่มแป้นพิเศษ (Special-purpose keys) กลุ่มแป้นตัวอักษร
(Typewriter keys) หรือกลุ่มแป้นควบคุมอื่น ๆ (Control
keys) ซึ่งการสั่งงานคอมพิวเตอร์และการทำงานหลายๆ อย่างจำเป็นต้องใช้แป้นพิมพ์เป็นหลัก
5. เมาส์ (Mouse)
อุปกรณ์รับข้อมูลที่นิยมรองจากคีย์บอร์ด เมาส์จะช่วยในการบ่งชี้ตำแหน่งว่าขณะนี้กำลังอยู่ ณ จุดใดบนจอภาพ เรียกว่า "ตัวชี้ตำแหน่ง (Pointer)" ซึ่งอาศัยการเลื่อนเมาส์ แทนการกดปุ่มบังคับทิศทางบนคีย์บอร์ด
อุปกรณ์รับข้อมูลที่นิยมรองจากคีย์บอร์ด เมาส์จะช่วยในการบ่งชี้ตำแหน่งว่าขณะนี้กำลังอยู่ ณ จุดใดบนจอภาพ เรียกว่า "ตัวชี้ตำแหน่ง (Pointer)" ซึ่งอาศัยการเลื่อนเมาส์ แทนการกดปุ่มบังคับทิศทางบนคีย์บอร์ด
6. เมนบอร์ด (Main
board)
แผ่นวงจรไฟฟ้าแผ่นใหญ่ที่รวมเอาชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญๆมาไว้ด้วย กัน
ซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุม การทำงานของ อุปกรณ์ต่างๆ ภายในพีชีทั้งหมด มีลักษณะเป็นแผ่น
รูปร่างสี่เหลี่ยมแผ่นที่ใหญ่ที่สุดในพีชี ที่จะรวบรวมเอาชิปและไอชี (IC =
Integrated Circuit) รวมทั้ง การ์ดต่อพ่วงอื่นๆ เอาไว้ด้วยกันบนบอร์ดเพียงอันเดียวเครื่องพีชีทุกเครื่องไม่สามารถทำงาน
ได้ถ้าขาดเมนบอร์ด
7. ซีพียู (CPU)
ซีพียูหรือหน่วยประมวลผลกลาง เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า โปรเซสเซอร์ (Processor) หรือ ชิป (chip) นับเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมากที่สุดของฮาร์ดแวร์ เพราะมีหน้าที่ในการประมวลผลจากข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อน เข้ามาทางอุปกรณ์นำเข้าข้อมูลตามชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ผู้ใช้ต้องการใช้ งาน หน่วยประมวลผลกลาง ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วน คือ
1) หน่วยคำนวณและตรรกะ (Arithmetic & Logical Unit: ALU) หน่วยคำนวณตรรกะ ทำหน้าที่เหมือนกับเครื่องคำนวณอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยทำงานเกี่ยวกับการคำนวณทางคณิตศาสตร์ เช่น บวก ลบ คูณ หาร อีกทั้งยังมีความสามารถอีกอย่างหนึ่งที่เครื่องคำนวณธรรมดาไม่มี คือ ความสามารถในเชิงตรรกะศาสตร์ หมายถึง ความสามารถในการเปรียบเทียบตามเงื่อนไขและกฎเกณฑ์ทางคณิตศาสตร์ เพื่อให้ได้คำตอบออกมาว่าเงื่อนไข นั้นเป็น จริง หรือ เท็จ ได้
2) หน่วยควบคุม (Control Unit) หน่วยควบคุม ทำหน้าที่ควบคุมลำดับขั้นตอนการประมวลผล รวมไปถึงการประสานงานกับอุปกรณ์นำเข้าข้อมูล อุปกรณ์แสดงผล และหน่วยความจำสำรองด้วย ซีพียูที่มีจำหน่ายในท้องตลาด ได้แก่ Pentium III , Pentium 4 , Pentium M (Centrino) , Celeron , Dulon , Athlon
ซีพียูหรือหน่วยประมวลผลกลาง เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า โปรเซสเซอร์ (Processor) หรือ ชิป (chip) นับเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมากที่สุดของฮาร์ดแวร์ เพราะมีหน้าที่ในการประมวลผลจากข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อน เข้ามาทางอุปกรณ์นำเข้าข้อมูลตามชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ผู้ใช้ต้องการใช้ งาน หน่วยประมวลผลกลาง ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วน คือ
1) หน่วยคำนวณและตรรกะ (Arithmetic & Logical Unit: ALU) หน่วยคำนวณตรรกะ ทำหน้าที่เหมือนกับเครื่องคำนวณอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยทำงานเกี่ยวกับการคำนวณทางคณิตศาสตร์ เช่น บวก ลบ คูณ หาร อีกทั้งยังมีความสามารถอีกอย่างหนึ่งที่เครื่องคำนวณธรรมดาไม่มี คือ ความสามารถในเชิงตรรกะศาสตร์ หมายถึง ความสามารถในการเปรียบเทียบตามเงื่อนไขและกฎเกณฑ์ทางคณิตศาสตร์ เพื่อให้ได้คำตอบออกมาว่าเงื่อนไข นั้นเป็น จริง หรือ เท็จ ได้
2) หน่วยควบคุม (Control Unit) หน่วยควบคุม ทำหน้าที่ควบคุมลำดับขั้นตอนการประมวลผล รวมไปถึงการประสานงานกับอุปกรณ์นำเข้าข้อมูล อุปกรณ์แสดงผล และหน่วยความจำสำรองด้วย ซีพียูที่มีจำหน่ายในท้องตลาด ได้แก่ Pentium III , Pentium 4 , Pentium M (Centrino) , Celeron , Dulon , Athlon
8. การ์ดแสดงผล (Display
Card)
การ์ดแสดงผลใช้สำหรับเก็บข้อมูลที่ได้รับมาจากซีพียู โดยที่การ์ดบางรุ่นสามารถประมวลผลได้ในตัวการ์ด ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระการประมวลผลให้ซีพียู จึงทำให้การทำงานของคอมพิวเตอร์นั้นเร็วขึ้นด้วย ซึ่งตัวการ์ดแสดงผลนั้นจะมีหน่วยความจำในตัวของมันเอง ถ้าตัวการ์ดมีหน่วยความจำมาก ก็จะรับข้อมูลจากซีพียูได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การแสดงผลบนจอภาพมีความเร็วสูงขึ้นด้วย
การ์ดแสดงผลใช้สำหรับเก็บข้อมูลที่ได้รับมาจากซีพียู โดยที่การ์ดบางรุ่นสามารถประมวลผลได้ในตัวการ์ด ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระการประมวลผลให้ซีพียู จึงทำให้การทำงานของคอมพิวเตอร์นั้นเร็วขึ้นด้วย ซึ่งตัวการ์ดแสดงผลนั้นจะมีหน่วยความจำในตัวของมันเอง ถ้าตัวการ์ดมีหน่วยความจำมาก ก็จะรับข้อมูลจากซีพียูได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การแสดงผลบนจอภาพมีความเร็วสูงขึ้นด้วย
หลักกันทำงานพื้นฐานของการ์ดแสดงผลจะเริ่มต้นขึ้น เมื่อโปรแกรมต่างๆ ส่งข้อมูลมาประมวลผลที่ ซีพียูเมื่อซีพียูประมวลผล เสร็จแล้ว ก็จะส่งข้อมูลที่จะนำมาแสดงผลบนจอภาพมาที่การ์ดแสดงผล จากนั้น การ์ดแสดงผล ก็จะส่งข้อมูลนี้มาที่จอภาพ ตามข้อมูลที่ได้รับมา การ์ดแสดงผลรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมาส่วนใหญ่ ก็จะมีวงจร ในการเร่งความเร็วการแสดงผลภาพสามมิติ และมีหน่วยความจำมาให้มากพอสมควร
9. แรม (RAM)
RAM ย่อมาจากคำว่า Random-Access Memory เป็น หน่วยความจำหลักแต่ไม่ถาวร ซึ่งจะต้องมีไฟมาหล่อเลี้ยงอุปกรณ์ตลอดในการทำงาน โดยถ้าเกิดไฟฟ้ากระพริบหรือดับ ข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ในหน่วยความจำจะหายไปทันที
โดยหลักการทำงานคร่าวๆ ของแรมนั้นเริ่มต้นที่รับข้อมูลจากผู้ใช้ผ่านอุปกรณ์ Input จากนั้นก็จะส่งข้อมูลไปยัง CPU ในการประมวลผล เมื่อ CPU ประมวลผลเสร็จแล้ว แรมจะรับข้อมูลที่ได้รับการประมวลผลแล้ว ออกไปยังอุปกรณ์ Output ต่อไป โดยหน่วยความจำแรมที่ใช้ในปัจจุบันมีหลายชนิด เช่น SDRAM, DDR-RAM, RDRAM
RAM ย่อมาจากคำว่า Random-Access Memory เป็น หน่วยความจำหลักแต่ไม่ถาวร ซึ่งจะต้องมีไฟมาหล่อเลี้ยงอุปกรณ์ตลอดในการทำงาน โดยถ้าเกิดไฟฟ้ากระพริบหรือดับ ข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ในหน่วยความจำจะหายไปทันที
โดยหลักการทำงานคร่าวๆ ของแรมนั้นเริ่มต้นที่รับข้อมูลจากผู้ใช้ผ่านอุปกรณ์ Input จากนั้นก็จะส่งข้อมูลไปยัง CPU ในการประมวลผล เมื่อ CPU ประมวลผลเสร็จแล้ว แรมจะรับข้อมูลที่ได้รับการประมวลผลแล้ว ออกไปยังอุปกรณ์ Output ต่อไป โดยหน่วยความจำแรมที่ใช้ในปัจจุบันมีหลายชนิด เช่น SDRAM, DDR-RAM, RDRAM
10. ฮาร์ดดิสก์ (Hard
disk)
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลหรือโปรแกรมต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ โดยฮาร์ดดิสค์จะมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมที่มีเปลือกนอก เป็นโลหะแข็ง และมีแผงวงจรสำหรับการควบคุมการทำงานประกบอยู่ที่ด้านล่าง พร้อมกับช่องเสียบสายสัญญาณและสายไฟเลี้ยง ส่วนประกอบภายในจะถูกปิดผนึกไว้อย่างมิดชิด โดยฮาร์ดดิสค์ส่วนใหญ่จะประกอบด้วยแผ่นจานแม่เหล็ก(platters) สองแผ่นหรือมากกว่ามาจัด เรียงอยู่บนแกนเดียวกันเรียก Spindle ทำให้แผ่นแม่เหล็กหมุนไปพร้อม ๆ กัน จากการขับเคลื่อนของมอเตอร์ แต่ละหน้าของแผ่นจานจะมีหัวอ่านเขียนประจำเฉพาะ โดยหัวอ่านเขียนทุกหัวจะเชื่อมติดกันคล้ายหวี สามารถเคลื่อนเข้าออกระหว่างแทร็กต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ซึ่งอินเตอร์เฟสของฮาร์ดดิสก์ที่ใช้ในปัจจุบัน มีอยู่ 3 ชนิดด้วยกัน
- IDE (Integrated Drive Electronics)
เป็นระบบของ ฮาร์ดดิสก์อินเตอร์เฟสที่ใช้กันมากในปัจจุบันนี้ การต่อไดร์ฟฮาร์ดดิสก์แบบ IDE จะต่อผ่านสายแพรและคอนเน็คเตอร์จำนวน 40 ขาที่มีอยู่บนเมนบอร์ด ส่วนใหญ่แล้วใน 1 คอนเน็คเตอร์ จะสามารถต่อฮาร์ดดิสก์ได้ 2 ตัวและบนเมนบอร์ด
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลหรือโปรแกรมต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ โดยฮาร์ดดิสค์จะมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมที่มีเปลือกนอก เป็นโลหะแข็ง และมีแผงวงจรสำหรับการควบคุมการทำงานประกบอยู่ที่ด้านล่าง พร้อมกับช่องเสียบสายสัญญาณและสายไฟเลี้ยง ส่วนประกอบภายในจะถูกปิดผนึกไว้อย่างมิดชิด โดยฮาร์ดดิสค์ส่วนใหญ่จะประกอบด้วยแผ่นจานแม่เหล็ก(platters) สองแผ่นหรือมากกว่ามาจัด เรียงอยู่บนแกนเดียวกันเรียก Spindle ทำให้แผ่นแม่เหล็กหมุนไปพร้อม ๆ กัน จากการขับเคลื่อนของมอเตอร์ แต่ละหน้าของแผ่นจานจะมีหัวอ่านเขียนประจำเฉพาะ โดยหัวอ่านเขียนทุกหัวจะเชื่อมติดกันคล้ายหวี สามารถเคลื่อนเข้าออกระหว่างแทร็กต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ซึ่งอินเตอร์เฟสของฮาร์ดดิสก์ที่ใช้ในปัจจุบัน มีอยู่ 3 ชนิดด้วยกัน
- IDE (Integrated Drive Electronics)
เป็นระบบของ ฮาร์ดดิสก์อินเตอร์เฟสที่ใช้กันมากในปัจจุบันนี้ การต่อไดร์ฟฮาร์ดดิสก์แบบ IDE จะต่อผ่านสายแพรและคอนเน็คเตอร์จำนวน 40 ขาที่มีอยู่บนเมนบอร์ด ส่วนใหญ่แล้วใน 1 คอนเน็คเตอร์ จะสามารถต่อฮาร์ดดิสก์ได้ 2 ตัวและบนเมนบอร์ด
- SCSI (Small Computer System Interface)
เป็นอินเตอร์เฟสที่แตกต่างจากอินเตอร์เฟสแบบอื่น ๆ มาก โดยจะอาศัย Controller Card ที่มี Processor อยู่ในตัวเองทำให้เป็นส่วนเพิ่มขยายกับแผงวงจรใหม่โดยจะสนับสนุนการต่อ อุปกรณ์ได้ถึง 8 ตัว แต่การ์ดบางรุ่นอาจจะได้ถึง 14 ตัวทีเดียว โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้งานในรูปแบบ Server เพราะมีราคาแพงแต่มีความเร็วในการส่งข้อมูลสูง
เป็นอินเตอร์เฟสที่แตกต่างจากอินเตอร์เฟสแบบอื่น ๆ มาก โดยจะอาศัย Controller Card ที่มี Processor อยู่ในตัวเองทำให้เป็นส่วนเพิ่มขยายกับแผงวงจรใหม่โดยจะสนับสนุนการต่อ อุปกรณ์ได้ถึง 8 ตัว แต่การ์ดบางรุ่นอาจจะได้ถึง 14 ตัวทีเดียว โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้งานในรูปแบบ Server เพราะมีราคาแพงแต่มีความเร็วในการส่งข้อมูลสูง
- Serial ATA (Advanced Technology Attachment)
เป็นอินเตอร์เฟสแบบใหม่ เปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 26 มิถุนายน 2545 งาน PC Expo ใน New York มีความเร็วในเข้าถึงข้อมูลถึง 150 Mbytes ต่อ วินาที และให้ผลตอบสนองในการทำงานได้เร็วมากในส่วนของ extreme application เช่น Game Home Video และ Home Network Hub โดยเป็นอินเตอร์เฟสที่จะมา
11. CD-ROM / CD-RW / DVD / DVD-RW
เป็นไดรฟ์สำหรับอ่านข้อมูลจากแผ่นซีดีรอม หรือดีวีดีรอม ซึ่งถ้าหากต้องการบันทึกข้อมูลลงบนแผ่นจะต้องใช้ไดรฟ์ที่สามารถเขียนแผ่นได้
คือ CD-RW หรือ DVD-RW โดยความเร็วของ
ซีดีรอมจะเรียกเป็น X เช่น 16X , 32X หรือ
52X โดยจะมี Interface เดียวกับ Harddisk
การทำงานของ CD-ROM ภายในซีดีรอมจะแบ่งเป็นแทร็กและเซ็กเตอร์เหมือนกับแผ่นดิสก์
แต่เซ็กเตอร์ในซีดีรอมจะมีขนาดเท่ากัน ทุกเซ็กเตอร์ ทำให้สามารถเก็บข้อมูลได้มากขึ้น
เมื่อไดรฟ์ซีดีรอมเริ่มทำงานมอเตอร์จะเริ่มหมุนด้วยความเร็ว หลายค่า ทั้งนี้เพื่อให้อัตราเร็วในการอ่านข้อมูลจากซีดีรอมคงที่สม่ำเสมอทุกเซ็ก
เตอร์ ไม่ว่าจะเป็นเซ็กเตอร์ ที่อยู่รอบนอกกรือวงในก็ตาม จากนั้นแสงเลเซอร์จะฉายลงซีดีรอม
โดยลำแสงจะถูกโฟกัสด้วยเลนส์ที่เคลื่อนตำแหน่งได้ โดยการทำงานของขดลวด ลำแสงเลเซอร์จะทะลุผ่านไปที่ซีดีรอมแล้วถูกสะท้อนกลับ
ที่ผิวหน้าของซีดีรอมจะเป็น หลุมเป็นบ่อ ส่วนที่เป็นหลุมลงไปเรียก
"แลนด์" สำหรับบริเวณที่ไม่มีการเจาะลึกลงไปเรียก "พิต" ผิวสองรูปแบบนี้เราใช้แทนการเก็บข้อมูลในรูปแบบของ
1 และ 0 แสงเมื่อถูกพิตจะกระจายไปไม่สะท้อนกลับ
แต่เมื่อแสงถูกเลนส์จะสะท้อนกลับผ่านแท่งปริซึม จากนั้นหักเหผ่านแท่งปริซึมไปยังตัวตรวจจับแสงอีกที
ทุกๆช่วงของลำแสงที่กระทบตัวตรวจจับแสงจะกำเนิดแรงดันไฟฟ้า หรือเกิด 1 และ 0 ที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้ ส่วนการบันทึกข้อมูลลงแผ่นซีดีรอมนั้นต้องใช้แสงเลเซอร์เช่นกัน
โดยมีลำแสงเลเซอร์จากหัวบันทึกของเครื่อง บันทึกข้อมูลส่องไปกระทบพื้นผิวหน้าของแผ่น
ถ้าส่องไปกระทบบริเวณใดจะทำให้บริเวณนั้นเป็นหลุมขนาดเล็ก บริเวณทีไม่ถูกบันทึกจะมีลักษณะเป็นพื้นเรียบสลับกันไปเรื่อยๆตลอดทั้งแผ่น
12. ฟล็อปปี้ดิสก์ (Floppy
Disk)
เป็นอุปกรณ์ที่กำเนิดมาก่อนยุคของพีซีเสียอีก โดยเริ่มจากที่มีขนาด 8
นิ้ว กลายมาเป็น 5.25 นิ้ว
จนมาถึงปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 3.5 นิ้ว ในส่วนของความจุเริ่มต้นตั้งแต่ไม่กี่ร้อยกิโลไบต์มาเป็น
1.44 เมกะไบต์ และ 2.88 เมกะไบต์
ตามลำดับ
ในปัจจุบันการใช้งานฟล็อปปี้ดิสก์นั้นน้อยลงไปมากเพราะ เนื่องจากจุข้อมูลได้น้อยซึ่งไม่เพียงพอกับความต้องการ แต่ฟล็อปปี้ดิสก์ก็ยังคงเป็นมาตรฐานหนึ่งที่เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง ต้องมี การพัฒนาฟล็อปปี้ดิสก์ก็ไม่ได้หยุดยั้งไปเสียทีเดียว ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้ระบบ Optical ทำให้
สามารถขยายความจุไปได้ถึง 120 เมกะไบต์ต่อแผ่น
โปรแกรมหรือซอฟต์แวร์
หมายถึง ส่วนที่มนุษย์สัมผัสไม่ได้โดยตรง (นามธรรม) เป็นโปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่ถูกเขียนขึ้นเพื่อสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงาน
ซอฟต์แวร์จึงเป็นเหมือนตัวเชื่อมระหว่างผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องคอมพิวเตอร์
ถ้าไม่มีซอฟต์แวร์เราก็ไม่สามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำอะไรได้เลย ซอฟต์แวร์สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งออกได้เป็น
1.
ซอฟต์แวร์สำหรับระบบ (System Software)
คือ ชุดของคำสั่งที่เขียนไว้เป็นคำสั่งสำเร็จรูป
ซึ่งจะทำงานใกล้ชิดกับคอมพิวเตอร์มากที่สุด เพื่อคอยควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์ทุกอย่าง
และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ในการใช้งาน ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมระบบที่รู้จักกันดีก็คือ DOS, Windows, Unix, Linux รวมทั้งโปรแกรมแปลคำสั่งที่เขียนในภาษาระดับสูง
เช่น ภาษา Basic, Fortran, Pascal, Cobol, C เป็นต้น นอกจากนี้โปรแกรมที่ใช้ในการตรวจสอบระบบเช่น
Norton’s Utilities ก็นับเป็นโปรแกรมสำหรับระบบด้วยเช่นกัน
2.
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software)
คือ ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมที่มำให้คอมพิวเตอร์ทำงานต่างๆ
ตามที่ผู้ใช้ต้องการ ไม่ว่าจะด้านเอกสาร บัญชี การจัดเก็บข้อมูล เป็นต้น ซอฟต์แวร์ประยุกต์สามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเภท คือ
2.1 ซอฟต์แวร์สำหรับงานเฉพาะด้าน คือ โปรแกรมซึ่งเขียนขึ้นเพื่อการทำงานเฉพาะอย่างที่เราต้องการ
บางที่เรียกว่า User’s Program เช่น โปรแกรมการทำบัญชีจ่ายเงินเดือน
โปรแกรมระบบเช่าซื้อ โปรแกรมการทำสินค้าคงคลัง เป็นต้น ซึ่งแต่ละโปรแกรมก็มักจะมีเงื่อนไข
หรือแบบฟอร์มแตกต่างกันออกไปตามความต้องการ หรือกฏเกณฑ์ของแต่ละหน่วยงานที่ใช้ ซึ่งสามารถดัดแปลงแก้ไขเพิ่มเติม
(Modifications) ในบางส่วนของโปรแกรมได้ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้
และซอฟต์แวร์ประยุกต์ที่เขียนขึ้นนี้โดยส่วนใหญ่มักใช้ภาษาระดับสูงเป็นตัวพัฒนา
2.3 ซอฟต์แวร์สำหรับงานทั่วไป
เป็นโปรแกรมประยุกต์ที่มีผู้จัดทำไว้ เพื่อใช้ในการทำงานประเภทต่างๆ ทั่วไป
โดยผู้ใช้คนอื่นๆ สามารถนำโปรแกรมนี้ไปประยุกต์ใช้กับข้อมูลของตนได้ แต่จะไม่สามารถทำการดัดแปลง
หรือแก้ไขโปรแกรมได้ ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเขียนโปรแกรมเอง ซึ่งเป็นการประหยัดเวลา แรงงาน
และค่าใช้จ่ายในการเขียนโปรแกรม นอกจากนี้ ยังไม่ต้องเวลามากในการฝึกและปฏิบัติ ซึ่งโปรแกรมสำเร็จรูปนี้
มักจะมีการใช้งานในหน่วยงานมราขาดบุคลากรที่มีความชำนาญเป็นพิเศษในการเขียนโปรแกรม
ดังนั้น การใช้โปรแกรมสำเร็จรูปจึงเป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกและเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
ตัวอย่างโปรแกรมสำเร็จรูปที่นิยมใช้ได้แก่ MS-Office, Lotus, Adobe
Photoshop, SPSS, Internet Explorer และ เกมส์ต่างๆ เป็นต้น
โปรแกรมกูเกิลสเก็ตช์อัป
การศึกษาผลกระทบของชิ้นงานที่สร้างขึ้น
ผลกระทบในทางบวก
ช่วยส่งเสริมความสะดวกสบายของมนุษย์
เทคโนโลยี สารสนเทศช่วยทำให้มนุษย์มีความเป็นอยู่ดีขึ้นช่วยส่งเสริมให้มีประสิทธิภาพ
ในการทำงานทำให้มนุษย์มีเวลาอ่านข่าวมากขึ้น ไม่ต้องเสี่ยงภัยกับงานที่มีอันตรายมีเครื่องมือสื่อสารโทรคมนาคมสมัยใหม่ทำ
ให้ติดต่อถึงกันได้สะดวกมีระบบคมนาคมขนส่งที่รวดเร็ว
สามารถใช้โทรศัพท์ในขณะเดินทางไปมายังที่ต่างๆ
มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ เช่น ลิฟต์ เครื่องซักผ้า
เครื่องปรับอากาศมีเครื่องช่วยให้เกิดการพักผ่อนหย่อนใจ เช่น วิทยุ
โทรทัศน์มีรายการให้เลือกชมได้มากมายมีการแพร่กระจาย สัญญาณโทรทัศน์
ผ่านดาวเทียมทำให้ผู้ชมสามารถรับรู้ข่าวสารต่างๆจากทั่วทุกมุมโลกได้อย่าง
รวดเร็วเหมือนอยู่ในเหตุการณ์
ช่วยทำให้การผลิตในอุตสาหกรรมดีขึ้น
ระบบ
การผลิตสินค้าในปัจจุบันเป็นระบบที่ต้องการผลิตสินค้าจำนวนมากมีคุณภาพ
มาตรฐานการผลิตในสมัยปัจจุบัน
ใช้เครื่องจักรทำงานอย่างอัตโนมัติสามารถทำงานได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
สินค้าที่ได้คุณภาพและปริมาณพอเพียงกับความต้องการของผู้บริโภค
ปัจจุบันมีความพยายามที่จะสร้างหุ่นยนต์เข้ามาช่วยในอุตสาหกรรมการผลิต
เทคโนโลยีสารสนเทศจึงมีผลต่อการผลิตมาก
ช่วยส่งเสริมให้เกิดการค้นคว้าวิจัยสิ่งใหม่
เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์และระบบสื่อสาร เช่น
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ช่วยให้งานค้นคว้าวิจัย ในห้องปฏิบัติการวิจัยต่างๆ มีความก้าวหน้ายิ่งขึ้นคอมพิวเตอร์ช่วยงานคำนวณที่ซับซ้อน
ซึ่งแต่ก่อนยากที่จะทำได้ เช่น งานสำรวจทางด้านอวกาศงานพัฒนาคิดค้นผลิตภัณฑ์และสารเคมีต่างๆ
ทำให้ได้สูตรยารักษาโรคใหม่ๆ เกิดขึ้น มากมาย ปัจจุบันงานค้นคว้าวิจัยทุกแขนงจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการคำนวณ
ต่างๆ นักวิจัยนักวิทยาศาสตร์ใช้ประโยชน์จากคอมพิวเตอร์ในการจำลองรูปแบบของสิ่ง ที่มองไม่เห็นตัวใช้ในการค้นหาข้อมูลที่มีจำนวนมากและแพร่กระจายอยู่ทั่ว
โลก
สามารถค้นหารายงานวิจัยที่มีผู้เคยทำไว้ แล้วและที่เก็บไว้ในห้องสมุดต่างๆ
ได้อย่างรวดเร็วงานวิจัยต่างๆ มีความก้าวหน้ายิ่งขึ้นเพราะเทคโนโลยีเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่อย่างมาก
ช่วยส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น
ปัจจุบัน
เครื่องมือเครื่องใช้ทางการแพทย์ล้วนแล้วแต่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการดำเนิน
การช่วยในการแปลผลเรามีเครื่องมือตรวจหัวใจ ที่ทันสมัยมีเครื่องเอกซเรย์ภาคตัดขวางที่สามารถตรวจดูอวัยวะต่างๆของร่าง
กายได้อย่างละเอียดมีเครื่องมือที่ใช้ในการตรวจค้นหา
โรคภัยไข้เจ็บต่างๆที่ทันสมัยหรือแม้แต่การผ่าตัดก็มีเครื่องมือช่วยในการ
ผ่าตัดที่ทำให้คนไข้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นมีเครื่องมือที่คอยวัดและ
ตรวจสอบสภาพการเปลี่ยนแปลงของร่างกายอย่างละเอียดระบบการรักษาพยาบาลจากที่ ห่างไกล
เช่น คนไข้อยู่ที่จังหวัดชายแดนและขาดแคลนแพทย์เฉพาะทางแพทย์ผู้ทำการรักษาสามารถ
ส่งคำถามมาปรึกษาหารือกับแพทย์ผู้ชำนาญ
การเฉพาะได้มีการรวบรวมความรู้ของแพทย์ชำนาญการจัดสร้างเป็นฐานความรอบรู้
เพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้กว้างขวางยิ่งขึ้นนอกจาก
นี้ยังมีการพัฒนาเครื่องมือช่วยคนพิการต่างๆเช่นการสร้างแขวนเทียม
ขาเทียมการสร้างเครื่องกระตุ้นหัวใจสร้างเครื่องช่วยฟังเสียง
หรือมีการพัฒนาเทคโนโลยี การปลูกถ่ายอวัยวะสำคัญต่างๆ
รวมทั้งการผลิตยาและวัคซีนสมัยใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเข้าช่วยด้วย
ช่วยส่งเสริมสติปัญญาของมนุษย์
ช่วยส่งเสริมสติปัญญาของมนุษย์
คอมพิวเตอร์มีจุดเด่นที่ทำให้การทำงานต่างๆทำงานได้รวดเร็วและมีความแม่นยำสามารถเก็บข้อมูลต่างๆไว้ได้มากการแก้ปัญหา
ที่ซับซ้อนบางอย่างกระทำได้ดีและรวดเร็วงานบางอย่างถ้าให้มนุษย์ทำอาจต้องเสียเวลาในการคิดคำนวณตลอดชีวิตแต่คอมพิวเตอร์
สามารถทำงานเสร็จในเวลาไม่กี่วินาที
ดังนั้นจึงมีการนำคอมพิวเตอร์มาจำลองเหตุการณ์ต่างๆเพื่อให้มนุษย์หาทางศึกษาหรือแก้ไขปัญหา
เช่น การจำลองสภาวะของสิ่งแวดล้อม
การจำลองระบบมลภาวะจำลองการไหลของเหลวการควบคุมระบบจราจร
หรือแม้แต่การนำเอาคอมพิวเตอร์มาจำลองในสภาพที่เหมือนจริง
เช่นจำลองการเดินเรือจำลองการขับเครื่องบิน การขับรถยนต์ สิ่งต่างๆ
เหล่านี้ทำให้เหมือนจริงๆได้หากมีการผิดพลาดก็ไม่ทำให้เกิดอันตรายคอมพิวเตอรจึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการเรียนรู้ของมนุษย์
ได้ดีปัจจุบันมีการนำ์้บทเรียนมาไว้ในคอมพิวเตอร์และให้เรียนรู้ผ่านคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่าคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
(Computer Assisted Instruction: CAI) คอมพิวเตอร์ยังเป็นเครื่องมือที่ให้ นักเรียน
นิสิต นักศึกษาสมัยใหม่เชื่อมโยงติดต่อกันทางอินเทอร์เน็ต สามารถเรียกค้นข้อมูลข่าวสารทางเครือข่ายสามารถเรียนรู้
การใช้คอมพิวเตอร์หรือเรียนจากที่ห่างไกลได้ คอมพิวเตอร์จึงมีบทบาท
ที่ทำให้มนุษย์ได้รับข่าวสารมากขึ้นกว่าเดิมและเป็นหนทางที่ทำให้เกิดสติปัญญาอย่างแท้จริง
ทำให้เกิดอาชญากรรม
เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถนำมาใช้ในการก่อให้เกิดอาชญากรรมได้โจร
ผู้ร้ายใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการวางแผนการปล้นวางแผน การโจรกรรมมีการลักลอบใช้ข้อมูลข่าวสารมีการโจรกรรมหรือแก้ไขตัวเลขบัญชี
ด้วยคอมพิวเตอร์การลอบเข้าไปแก้ไขข้อมูลอาจทำให้เกิด ปัญหาหลายอย่าง
เช่นการแก้ไขระดับคะแนนของนักศึกษาการแก้ไขข้อมูลในโรงพยาบาลเพื่อให้การรักษาพยาบาลคนไข้ผิดซึ่งเป็น
การทำร้ายหรือฆาตรกรรมดังที่เห็นในภาพยนตร์
ทำให้ความสัมพันธ์ของมนุษย์เสื่อมถอย
การ
ใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารทำให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้
โดยไม่ต้องเห็นตัวการใช้งานคอมพิวเตอร์หรือแม้แต่การเล่นเกม
มีลักษณะการใช้งานเพียงคนเดียวทำให้ความสัมพันธ์กับผู้อื่นลดน้อยลง
ผลกระทบนี้ทำให้มีความเชื่อว่ามนุษย์สัมพันธ์ของบุคคลจะลดน้อย
ลงสังคมใหม่จะเป็นสังคมที่ไม่ต้องพึ่งพากันมาก
ทำให้เกิดความวิตกกังวล
ผล
กระทบนี้เป็นผลกระทบทางด้านจิตใจของกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่มีความวิตกกังวล
ว่าคอมพิวเตอร์ อาจทำให้เกิดการว่าจ้างงานน้อยลงมีการนำเอาหุ่นยนต์
มาใช้ในงานมากขึ้นมีระบบการผลิตที่อัตโนมัติมากขึ้นทำให้
ผู้ใช้แรงงานอาจตกงานหรือหน่วยงานอาจเลิกว่าจ้างได้โดยความเจริญ
แล้วความคิดเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับบุคลากรบางคน
เท่านั้นแต่ถ้าบุคคลนั้นมีการปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีหรือมีการพัฒนาให้
มีความรู้ความสามารถสูงขึ้นแล้วปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้น
ทำให้เกิดความเสี่ยงภัยทางด้านธุรกิจ
ธุรกิจในปัจจุบันจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้นข้อมูลข่าวสารทั้งหมดของธุรกิจฝากไว้ในศูนย์ข้อมูล
เช่น ข้อมูลลูกหนี้การค้าข้อมูลสินค้าและบริการต่างๆ
หากเกิดการสูญหายของข้อมูลอันเนื่องมาจากเหตุอุบัติภัย เช่น
ไฟไหม้น้ำท่วมหรือด้วยสาเหตุ ก็ตามทำให้ข้อมูลหายหมดย่อมทำให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจโดยตรง
ทำให้การพัฒนาอาวุธมีอำนาจทำลายสูงมาก
ประเทศที่เป็นต้นตำรับของเทคโนโลยีสามารถนำเอาเทคโนโลยีไปใช้ในการสร้างอาวุธที่มีอานุภาพการทำลายสูงทำให้หมิ่นเหม่
ต่อสงครามที่มีการทำลายล้างสูงเกิดขึ้น
ต่อสงครามที่มีการทำลายล้างสูงเกิดขึ้น
ทำให้เกิดการแพร่วัฒนธรรมและกระจายข่าวสารที่ไม่เหมาะสมอย่างรวดเร็ว
คอมพิวเตอร์
เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดการนำมาใช้ในทางใดจึงขึ้นอยู่
กับผู้ใช้จริยธรรมการใช้คอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นเรื่อง
สำคัญดังเช่นการใช้งานอินเทอร์เน็ตมีผู้สร้างโฮมเพจหรือสร้างข้อมูลข่าวสาร
ในเรื่องภาพที่ไม่เหมาะสมเช่นภาพอนาจารหรือภาพที่ทำให้
ผู้อื่นเสียหายการดำเนินการเช่นนี้ย่อมขึ้นอยู่กับจริยธรรมของผู้ดำเนิน
การนอกจากนี้ยังมีการปลอมแปลงระบบจดหมายเพื่อส่งจดหมายถึง
ผู้อื่นโดยมีเจตนากระจายข่าวที่เป็นเท็จจริยธรรมการใช้งานครือข่ายเป็น
เรื่องสำคัญที่ต้องปลูกฝังอย่างมาก
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสร้างชิ้นงานด้วยคอมพิวเตอร์
ชิ้นงานที่สร้างขึ้นจากคอมพิวเตอร์นั้นจำเป็นต้องอาศัยซอฟต์แวร์ในการทำงานร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์และอาจจะต้องมีการใช้ระบบการสื่อสารในอิเตอร์เน็ต เพื่ออำนวยความสะดวกในการสร้างสรรค์ชิ้นงาน ดังนั้นผู้สร้างชิ้นงานต้องมีความรู้ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเริ่มการผลิต ในระหว่างการผลิต จนถึงความรับผิดชอบเมื่อผลงานได้ถูกนำไปใช้แล้ว ซึ่งมีข้อปฏิบัติและกฎหมายที่ควรรู้ ดังนี้
1.พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 เป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชอฟต์แวร์ที่นำมาผลิตชิ้นงาน จนถึงการคุ้มครองชิ้นงานที่ผลิตขึ้นด้วย ในพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับชิ้นงาน คือ
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสร้างชิ้นงานด้วยคอมพิวเตอร์
ชิ้นงานที่สร้างขึ้นจากคอมพิวเตอร์นั้นจำเป็นต้องอาศัยซอฟต์แวร์ในการทำงานร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์และอาจจะต้องมีการใช้ระบบการสื่อสารในอิเตอร์เน็ต เพื่ออำนวยความสะดวกในการสร้างสรรค์ชิ้นงาน ดังนั้นผู้สร้างชิ้นงานต้องมีความรู้ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเริ่มการผลิต ในระหว่างการผลิต จนถึงความรับผิดชอบเมื่อผลงานได้ถูกนำไปใช้แล้ว ซึ่งมีข้อปฏิบัติและกฎหมายที่ควรรู้ ดังนี้
1.พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 เป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชอฟต์แวร์ที่นำมาผลิตชิ้นงาน จนถึงการคุ้มครองชิ้นงานที่ผลิตขึ้นด้วย ในพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับชิ้นงาน คือ
ส่วนที่ 6
|
ข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์
มาตรา 32 การกระทำแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของบุคคลอื่นตามพระราชบัญญัตินี้ หากไม่ ขัดต่อการแสวงหาประโยชน์จากงานอันมีลิขสิทธิ์ตามปกติของเจ้าของลิขสิทธิ์และ ไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของเจ้าของลิขสิทธิ์เกินสมควร มิให้ถือว่า เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ภายใต้บังคับบทบัญญัติในวรรคหนึ่ง การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งาน อันมีลิขสิทธิ์ตาม วรรคหนึ่งมิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำดังต่อไปนี้ (1) วิจัยหรือศึกษางานนั้น อันมิใช่การกระทำเพื่อหากำไร (2) ใช้เพื่อประโยชน์ของตนเอง หรือเพื่อประโยชน์ของตนเองและบุคคลอื่น ในครอบครัว หรือญาติสนิท (3) ติชม วิจารณ์ หรือแนะนำผลงานโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ในงานนั้น (4) เสนอรายงานข่าวทางสื่อสารมวลชนโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของ ลิขสิทธิ์ในงานนั้น (5) ทำซ้ำ ดัดแปลง นำออกแสดง หรือทำให้ปรากฏ เพื่อประโยชน์ในการ พิจารณา ของศาลหรือเจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจตามกฎหมาย หรือในการรายงานผลการ พิจารณาดังกล่าว (6) ทำซ้ำ ดัดแปลง นำออกแสดง หรือทำให้ปรากฏโดยผู้สอน เพื่อประโยชน์ ในการสอน ของตน อันมิใช่การกระทำเพื่อหากำไร (7) ทำซ้ำ ดัดแปลงบางส่วนของงาน หรือตัดทอนหรือทำบทสรุปโดยผู้สอน หรือสถาบันศึกษา เพื่อแจกจ่ายหรือจำหน่ายแก่ผู้เรียนในชั้นเรียนหรือในสถาบันศึกษา ทั้งนี้ ต้องไม่ เป็นการกระทำเพื่อหากำไร (8) นำงานนั้นมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการถามและตอบในการสอบ มาตรา 33 การกล่าว คัด ลอก เลียน หรืออ้างอิงงานบางตอนตามสมควร จากงานอันมี ลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ โดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้ปฏิบัติตาม มาตรา 32 วรรคหนึ่ง มาตรา 34 การทำซ้ำโดยบรรณารักษ์ของห้องสมุดซึ่งงานอันมีลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัตินี้ มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์หากการทำซ้ำนั้นมิได้มีวัตถุประสงค์ เพื่อหากำไร และได้ปฏิบัติตาม มาตรา 32 วรรคหนึ่ง ในกรณีดังต่อไปนี้ (1) การทำซ้ำเพื่อใช้ในห้องสมุดหรือให้แก่ห้องสมุดอื่น (2) การทำซ้ำงานบางตอนตามสมควรให้แก่บุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ในการ วิจัยหรือการศึกษา มาตรา 35 การกระทำแก่โปรแกรมคอมพิวเตอร์อันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ หากไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อหากำไร และได้ปฏิบัติตาม มาตรา 32 วรรคหนึ่ง ในกรณีดังต่อไปนี้ (1) วิจัยหรือศึกษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น (2) ใช้เพื่อประโยชน์ของเจ้าของสำเนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น (3) ติชม วิจารณ์ หรือแนะนำผลงานโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของ ลิขสิทธิ์ใน โปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น (4) เสนอรายงานข่าวทางสื่อสารมวลชนโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของ ลิขสิทธิ์ ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น (5) ทำสำเนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในจำนวนที่สมควรโดยบุคคลผู้ซึ่งได้ซื้อ หรือได้รับโปรแกรมนั้นมาจากบุคคลอื่นโดยถูกต้อง เพื่อเก็บไว้ใช้ประโยชน์ในการบำรุงรักษา หรือป้องกันการสูญหาย (6) ทำซ้ำ ดัดแปลง นำออกแสดง หรือทำให้ปรากฏเพื่อประโยชน์ใน การพิจารณาของศาล หรือเจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจตามกฎหมาย หรือในการรายงาน ผลการพิจารณาดังกล่าว (7) นำโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้นมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการถามและตอบ ในการสอบ (8) ดัดแปลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในกรณีที่จำเป็นแก่การใช้ (9) จัดทำสำเนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อเก็บรักษาไว้สำหรับการอ้างอิง หรือค้นคว้าเพื่อประโยชน์ของสาธารณชน
2.พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 เป็นกฎหมาย
ที่ทุกคนต้องคำนึง เนื่องจากสร้างชิ้นงานด้วยคอมพิวเตอร์ ย่อมส่งผลกระทบต่อสังคมและ สิ่งแวดล้อมดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ซึ่งผลกระทบทางด้านลบ อาจเป็นการผิดจริยธรรม ในการใช้โดยทั่วไป เช่น การสร้างโปรแกรมตรวจงานของพนักงานบริษัท ซึ่งอาจจะ เป็นการละเมิดหากนำมาใช้กับบุคคลทั่วไป ดังนั้น ในการสร้างชิ้นงานคอมพิวเตอร์ ต้องศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่สร้างชิ้นงานที่ก่อให้เกิดการละเมิดกระทำ ผิดกฎหมาย ซึ่งในประเทศไทยมีพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 เป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชิีนงานคอมพิวเตอร์ ครอบคลุมการสื่อสารในอินเทอร์เน็ตมีหมวดที่ผู้ผลิตชิ้นงานด้วยคอมพิวเตอร์ควรรู ดังนี้ |
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|
||||||||||||




ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น